Fahrenheit 451
รีวิวหนัง Fahrenheit 451 เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของเรย์ แบรดบูรี่ ซึ่งเล่าเรื่องราวในโลก dystopian ที่การอ่านหนังสือกลายเป็นสิ่งต้องห้ามและเจ้าหน้าที่ดับไฟที่เรียกว่า “Firemen” จะต้องเผาหนังสือทุกเล่มที่พบ เพื่อปกป้องสังคมจากความคิดที่แตกต่างและการศึกษา
ในเวอร์ชั่นปี 2018 นี้ กำกับโดย Ramin Bahrani นำแสดงโดย Michael B. Jordan ในบท Guy Montag เจ้าหน้าที่ดับไฟที่เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับบทบาทของเขาในสังคม และ Michael Shannon ในบท Captain Beatty ผู้บังคับบัญชาที่มีความเชื่อมั่นในการเผาหนังสืออย่างสูง รวมถึง Sofia Boutella ที่รับบท Clarisse McClellan ผู้หญิงที่กระตุ้นให้ Montag เริ่มตั้งคำถามกับชีวิตของเขา
คะแนนและการตอบรับ
Fahrenheit 451 ได้รับคะแนนจาก IMDB ที่ 6.1 และจาก Rotten Tomatoes ได้คะแนน 37% จากนักวิจารณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์นี้อาจไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนักจากผู้ชม โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับผลงานต้นฉบับที่ถือว่าเป็นคลาสสิก
สรุปเนื้อเรื่อง
Fahrenheit 451 เปิดเรื่องด้วย Guy Montag (Michael B. Jordan) ผู้ที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ดับไฟในโลกที่การอ่านหนังสือถูกห้าม เขาใช้ชีวิตตามมาตรฐานที่สังคมกำหนด จนกระทั่งได้พบกับ Clarisse (Sofia Boutella) ซึ่งเป็นหญิงสาวที่มีความคิดแตกต่างและกระตุ้นให้เขาเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับโลกที่เขาอยู่
เมื่อ Montag เริ่มค้นพบความหมายของการอ่านและการคิดอย่างมีอิสระ เขาจึงเริ่มสงสัยในคำสั่งที่เขาได้รับจาก Captain Beatty (Michael Shannon) ผู้ซึ่งเชื่อมั่นในอำนาจของการควบคุมความคิดและการปกป้องสังคมจากการอ่านหนังสือ
ในที่สุด Montag ตัดสินใจที่จะลุกขึ้นต่อต้านระบบที่เขาเคยทำงานให้ และเริ่มต่อสู้เพื่อการศึกษาและเสรีภาพในการคิด ในการเดินทางนี้ เขาต้องเผชิญกับความท้าทายและอันตรายจากระบบที่เขาเคยเป็นส่วนหนึ่ง
Fahrenheit 451 ไม่เพียงแต่เป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเข้มข้นเกี่ยวกับการควบคุมความคิดและการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ แต่ยังเปิดตาให้ผู้ชมเห็นถึงอันตรายของการไม่คัดสรรข้อมูลและการละเลยความรู้ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
โดยรวมแล้ว Fahrenheit 451 เป็นภาพยนตร์ที่มีความสำคัญและควรค่าแก่การชม แม้ว่าจะมีการโพสต์คำวิจารณ์ที่หลากหลาย แต่การสื่อสารความสำคัญของการอ่านและการคิดอย่างมีอิสระนั้นยังคงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในทุกยุคทุกสมัย
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ภาพยนตร์และผลกระทบของสื่อในสังคม สามารถติดตามได้ที่ บ้านผลบอล